แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะตัดสินอนาคตของ เมสัน กรีนวูด ตอนจบฤดูกาลนี้

ปัจจุบัน เมสัน กรีนวูด เล่นอยู่กับ เกตาเฟ่ ในสัญญายืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจ แม้ห่างหายจากการลงสนามในเกมอย่างเป็นทางการไปนานก็ตาม

เดอะ ซัน รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำการตัดสินอนาคตของ เมสัน กรีนวูด ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมหรือหลังจากจบฤดูกาล 2023-24 ไปเรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางการคาดเดาเรื่องอนาคตของ เมสัน กรีนวูด ไปต่างๆนาๆ เช่นเดียวกันกับความสนใจจากหลายสโมสร

ในรายงานข่าวระบุว่า เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ เจ้าของ อินนิออส กรุ๊ป ที่เข้ามาถือหุ้นสโมสร 25% และเข้ามาควบคุมการดำเนินงานด้านฟุตบอลของสโมสร จะมอบหมายให้ทีมที่ปรึกษาจัดการแก้ไขปัญหาและกำหนดทิศทางของ เมสัน กรีนวูด เป็นหนึ่งในงานสำคัญก่อนถึงช่วงซัมเมอร์

ขณะเดียวกัน เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ก็ต้องการทราบความคิดเห็นของแฟนบอล และเจ้าหน้าที่อาวุโสของสโมสรในตำแหน่งอื่นๆ ที่มีเกี่ยวกับ เมสัน กรีนวูด โดยแหล่งข่าววงในที่ให้ข้อมูลกับ เดอะ ซัน แสดงความเห็นว่าโอกาสตอนนี้อยู่ที่ 50-50 ระหว่างการกลับมาและการขายขาด

 

ฮอยลุนด์ ทุบสถิติต่อ ในฐานะนักเตะอายุน้อยสุดยิงประตู 6 เกมติดในพรีเมียร์ลีก

ราสมุส ฮอยลุนด์ ใช้เวลาเพียงแค่ 37 วินาทีเท่านั้นในการเบิกสกอร์แรกให้ตัวเอง และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมนี้เหมา 2 ประตู พาทีมบุกชนะ ลูตัน ทาวน์ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ประตูล่าสุดนี้ทำให้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำประตูในพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 6 เกม โดยก่อนหน้านี้ทำใส่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, วูล์ฟแฮมป์ตัน, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า

ตอนนี้ ราสมุส ฮอยลุนด์ กลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดตลอดกาลเพียง 21 ปี 14 วัน ทำประตู 6 เกมติดกันใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมกับทำลายสถิติเดิมของ โจ วิลล็อค ที่เคยทำ 6 เกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยวัย 21 ปี 272 วัน 

5 อันดับแรกนักเตะอายุน้อยสุดทำประตู 6 นัดติด

21 ปี 14 วัน : ราสมุส ฮอยลุนด์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

21 ปี 272 วัน : โจ วิลล็อค (นิวคาสเซิ่ล)

22 ปี 73 วัน : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

22 ปี 213 วัน : โรเมลู ลูกากู (เอฟเวอร์ตัน)

22 ปี 263 วัน : เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล) 

ETH มั่นใจ “แรชฟอร์ด” เดี๋ยวกลับมายิงได้แน่

เอริค เท็น ฮาก นายใหญ่ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความมั่นใจว่าดาวยิงฟอร์มตกอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด นั้นจะสามารถกลับมาคืนฟอร์มเก่งของตัวเองได้อย่างแน่นอน

แรชฟอร์ด กองหน้าวัย 26 ปี เป็นหนึ่งในนักเตะ “ปีศาจแดง” ที่ฟอร์มการเล่นหล่นหายไปแบบดื้อๆ ทำได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น จากการลงสนาม 14 เกม ทุกรายการในฤดูกาลนี้ ประตูล่าสุดต้องย้อนกลับไปในเกมในเกมที่พวกเขาแพ้ อาร์เซน่อล ด้วยสกอร์ 3-1

“ผมมั่นใจว่าเขาจะสามารถกลับมาอยู่ถูกที่ถูกทางอีกครั้ง” เอริค เท็น ฮาก กล่าว

“ผมเห็นเขาในสนามซ้อมและเขาก็มีผลงานที่ดีมากๆ ดังนั้นผมคิดว่าอีกไม่นานเกินรอ เขาจะกลับมาอยู่บนเส้นทางของการทำประตูอีกครั้ง”

“เขาจะยิงประตูมากมายให้กับพวกเราและผมมั่นใจว่าเขาจะเป็นคนที่สำคัญให้กับพวกเราด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาหาจังหวะของตัวเองจนเจอ ทุกอย่างที่เหลือมันจะกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา”

ลือ! ‘ซานโช่’ ถกเครียด ‘เท็น ฮาก’ ขอย้ายหนาวนี้

รายงานจากสื่อดังเปิดเผยว่า จาดอน ซานโช่ ตัดสินใจพลักดันการย้ายออกจากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคมนี้ หลังมีการนัดประชุมกันอย่างตึงเครียดกับ เอริค เท็น ฮาก ผู้จัดการทีม

The Daily Star รายงานว่าดาวเตะวัย 23 ปี และ เอริค เท็น ฮาก ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในระหว่างการพูดคุยกับ เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา หลังกุนซือปีศษจแดงออกมาตำหนิการซ้อมที่น่าผิดหวังและตัดสินใจดร็อป ซานโช่ ในเกมที่พบกับ อาร์เซน่อล

ปีกทีมชาติอังกฤษ ออกมาตอบโต้ทันควันเช่นกันผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งยืนยันว่าเขาซ้อมได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าเขาเป็นแพะรับบาป จนทำให้เกิดข้อพิพาทบนโลกออนไลน์

ในขณะนี้ ซานโช่ แสดงความต้องการที่จะย้ายออกจาทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม และการย้ายทีมด้วยสัญญายืมตัวมีความเป็นไปได้มากที่สุด พ่วงด้วยออปชั่นซื้อขาด

สื่อดังกล่าวยังเปิดเผยอีกว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นทีมล่าสุดที่กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและความเป็นไปได้ในการคว้าตัวนักเตะกลับไปที่ ซิกแนล อิดูน่า พาร์ค

เฮียเบิฟ ยก ‘ผี’ – ‘สิงห์’ ตัวเต็งลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำนายทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก และเชื่อว่ามีสองทีมที่เป็นตัวเต็งในฤดูกาลนี้

ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Betfair อดีตกองหน้าทีมชาติบัลแกเลีย เลือกทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี เป็นทีมเต็งแชมป์เหนือกว่าทีมแชมป์เก่า อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถคว้าแชมป์ลีก 5 ครั้ง จาก 6 ฤดูกาลหลังสุด

“นักฟุตบอลที่รีไทร์ไปแล้วส่วนใหญ่จะอำเลียงและเชียร์อดีตสโมสรของพวกเขา ดังนั้นผมหวังว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถกลับมาอยู่ในที่ๆควรอยู่ได้” ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ กล่าว

“ผมไม่คิดว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะได้แชมป์อีกครั้ง ผมชัดเจนมากๆว่าต้องการให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก”

“ท้ายที่สุดแล้วผมคิดว่าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ จะเป็นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นของทีมเชลซี”

คริสเตียโน โรนัลโด้ อาจมีโอกาสไปร่วมทีม เชลซี หลังแยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

มีรายงานจากสำนักข่าวในต่างประเทศเปิดเผยว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ ถูกล่อลวงให้ย้ายไปเข้าร่วมทีม เชลซี และดูเหมือนว่านักเตะกองหน้าทีมชาติโปรตุเกสรายนี้จะไม่มีปัญหากับกระแสต่อต้านที่เขาจะได้รับจากกองเชียร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งในตอนนี้ คริสเตียโน โรนัลโด้ กำลังมองหาสโมสรต่อไปหลังจากที่เขาได้ยุติสัญญาที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากที่บทสัมภาษณ์ของเขากับ เพียร์ส มอร์แกน ได้ถูกเผยแพร่ผ่านทาง Talk TV และทำให้เขาต้องถึงคราสแตกหักกับสโมสร

นอกจากนี้นักเตะหนุ่มวัย 37 ปีตกเป็นข่าวพัวพันกับ อัล นาเซอร์ สโมสรฟุตบอลยักษ์ใหญ่จาก ซาอุดิ อาระเบีย ด้วย แต่ว่ายังไม่มีการยืนยันใดๆ ว่าอนาคตของเขาจะลงเอยกับสโมสรใด เชลซี ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับการเซ็นสัญญากั คริสเตียโน โรนัลโด้ ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และ ท็อดด์ โบห์ลีย์ เจ้าของสโมสรคนใหม่กระตือรือร้นที่จะแถลงข่าวการเซ็นสัญญาที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่แน่นอนว่าก็มีแฟนบอลบางส่วนที่คิดว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ อาจจะไม่ได้ย้ายมายัง เชลซี

ดานิเอเล่ ลองโก้ นักข่าวฟุตบอลชาวอิตาลีกล่าวว่า เชลซี คือตัวเลือกที่มีศักยภาพอีกครั้งสำหรับ คริสเตียโน โรนัลโด้ โดยเขามีความเห็นส่วนตัวว่าอดีตนักเตะหนุ่มรายนี้มีโอกาสสูงมากที่จะได้เซ็นสัญญากับ เชลซี ซึ่งในฤดูกาลนี้จุดบอดของ เชลซี ห็คือพวกเขายังขาดตัวจบสกอร์ที่เด็ดขาดอยู่ ทีมของพวกเขายิงประตุได้เพียงแต่ 17 ประตูจากการลงเล่นไปทั้งหมด 14 นัดใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งถือเป็นประตูรวมที่น้อยกว่าทีมอย่าง ไบรท์ตัน, ฟูแล่ม, เบรนท์ฟอร์ด และ เลสเตอร์ ซิตี้

สำหรับทางด้านของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่ได้เซ็นสัญญากับ เชลซี ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเพื่อหวังที่จะให้เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเกมรุกของ เชลซี แต่ว่าเขาก็สามารถทำประตูไปได้เพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้นในฤดูกาลนี้ และทางด้านของ คริสเตียโน โรนัลโด้ เองอาจจะเป็นตัวเลือกในระยะสั้นของ เกรแฮม พอตเตอร์ สำหรับปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้

แมนยูยังคงต้องการ เฟรงกี้ เดอ ยอง แม้จะเซ็นสัญญากับ คาเซมิโร่ แล้ว

มีรายงานข่าวจากต่างประเทศรายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้เซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เดอ ยอง นักเตะกองกลางตัวเก่งของ บาร์เซโลน่า ในช่วงซัมเมอร์นี้ แม้จะว่าตอนนี้สโมสรจะมีการประกาศยืนยันการเซ็นสัญญากับ คาเซมิโร่ ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ก่อนเกมที่พวกเขาจะเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปด้วยสกอร์ 2-1 ในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งทางด้านของ เอริค เทน ฮาก เองก็อยากร่วมงานกับอดีตผู้เล่นของเขามากและได้พยายามเซ็นสัญญาด้วยมาเป็นเวลานานแล้ว

เอริค เทน ฮาก ถูกตั้งคำถามบ่อยครั้งเกี่ยวกับเรื่องการเซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เดอ ยอง ว่าพวกเขายังต้องการเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มรายนี้หรือไม่หลังจากที่สโมสรได้มีการเซ็นสัญญากับ คาเซมิโร่ นักเตะหนุ่มของ เรอัล มาดริด ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็มีนักข่าวชื่อดังของอังกฤษได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงมีการเจรจากับ บาร์เซโลน่า อย่างต่อเนื่อง นั่นแสดงให้เห็นว่า เฟรงกี้ เดอ ยอง เป็นผู้เล่นที่พวกเขาอยากได้มาร่วมทีมมากๆ จริงๆ

สำหรับอุปสรรคของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการเซ็นสัญญากับนักเตะหนุ่มรายนี้ก็คือเรื่องเงินค่าจ้างของ เฟรงกี้ เดอ ยอง ที่ บาร์เซโลน่า ยังค้างอยู่ ซึ่งมีรายงานจากสำนักข่าวในสเปนได้เปิดเผยว่า บาร์เซโลน่า ได้ค้างค่าจ้างผู้เล่นในทีมของพวกเขาอยู่ประมาณ 14-17 ล้านปอนด์ และ เฟรงกี้ เด ยอง ก็เคยประสบปัญหากับการโดนลดค่าจ้างชั้วคราวในช่วงที่สโมสรประสบกับปัญหาเรื่องการเงินเนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด 19

แมนฯยูไนเต็ด เตรียมวางแผนเซ็นสัญญากับนักเตะคนใหม่

มีการคาดการณ์ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามจะเซ็นสัญญากับ ไทเรลล์ มาลาเซีย หลังจากที่พวกเขาบรรลุข้อตกลงในการเซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เด ยอง ซึ่ง เอริค เทน ฮาก ตั้งเป้าที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมใหม่ของเขาด้วยการเสริมตัวผู้เล่นใหม่ให้กับทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่มีนักเตะหน้าใหม่เข้ามาในทีมท่ามกลางความหวังในการพาทีมกลับมาสู่ยุคทองอีกครั้ง หลังจากความล้มเหลวในช่วงการคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ และ ราล์ฟ รังนิค

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เด ยอง มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ซึ่งเขาน่าจะเป็นนักเตะที่ เอริค เทน ฮาก อยากจะได้มาร่วมทีมมากที่สุด เพราะว่าทั้งสองคนเคยร่วมงานกันมาก่อนแล้วสมัยที่ เฟรงกี้ เด ยอง เล่นให้กับ อาแจ็กซ์ และคว้าแชมป์ลีกเนเธอร์แลนด์ร่วมกันมาครองได้ และยังสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อีกด้วย

สำหรับการเซ็นสัญญากับนักเตะในตอนนี้ เอริค เทน ฮาก ยังคงต้องการให้สโมสรโฟกัสไปที่การเซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เด ยอง ก่อน ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินในจำนวนที่ บาร์เซโลน่า เรียกร้องมา ซึ่งมันแอบสร้างความผิดหวังให้กับ เอริค เทน ฮาก เล็กน้อย เพราะว่าเขาอยากให้สโมสรให้ความสำคัญกับการเซ็นสัญญากับนักเตะมากขึ้นกว่านี้

และถ้าหาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เด ยอง เรียบร้อยแล้ว หลายฝ่ายก็เชื่อว่านักเตะรายต่อไปที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเซ็นสัญญาด้วยก็คือ ไทเรลล์ มาลาเซีย แต่ว่าตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเซ็นสัญญากับ เฟรงกี้ เด ยอง ให้สำเร็จก่อน และต้องมารอดูกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถปิดดีลกับ เฟรงกี้ เด ยอง ได้ที่ราคาเท่าไหร่

ราล์ฟ รังนิค พาทีม แมน ยูฯ พ่ายอีกครั้งใน พรีเมียร์ลีก

ราล์ฟ รังนิค ขายขี้หน้ากับฟอร์มการเล่นของนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากพ่ายยับให้กับ ลิเวอร์พูล ไปอย่างขาดรอย 4-0 ซึ่ง ราล์ฟ รังนิค เผยหลังจบการแข่งขันว่าเขารูสึกอับอายเป็นอย่างมากสำหรับความพ่ายแพ้ในนัดนี้ และยอมรับว่าฤดูกาลหน้าอาจจะต้องมีนักเตะหน้าใหม่อย่างน้อย 10 คนเข้ามาเปลี่ยนโฉมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกถล่มคาสนาม แอนฟิลด์ ในคืนวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่เคยพ่ายคาบ้านไปแล้วหนึ่งครั้งเมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้วใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งเกมนั้นก็โดนถล่มประตูยับจนพ่ายไป 5-0 คาบ้าน ส่วนทางด้านของ ราล์ฟ รังนิค เองก็คงไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมายสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลหน้า และยกให้เป็นงานหนักของ เอริค เทน ฮาก เฮดโค๊ชคนปัจจุบันของ อาแจ็กซ์ ที่จะเข้ามารับหน้าที่แทน และจะต้องเปลี่ยนโฉมทีมใหม่ให้ได้สำหรับฤดูกาลหน้า

ราล์ฟ รังนิค ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “สำหรับผมแล้วมันถือเป็นเกมที่น่าอับอายมาก ผมรู้สึกผิดหวังอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกมในครึ่งแรกที่เราไม่สามารถทำได้ การเจอกับทีมแบบนี้หากเราต้องการชนะ เราจะต้องสร้างปัญหากับคู่ต่อสู้ให้ได้ และใช้จังหวะโต้กลับสองสามจังหวะนั้นด้วยตัวเราเอง ซึ่งเราทำมันไม่ได้เอง และนั่นคือสาเหตุที่เราแพ้ 4-0 ในวันนี้”

ในตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนกำลังอยู่ในยุคที่ตกต่ำที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น แล้วกำลังจะคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการใหญ่ถึง 4 รายการ ไม่ว่าจะเป็น คาราบาว คัพ, เอฟเอ คัพ, แชมเปี้ยนส์ลีก และ พรีเมียร์ลีก ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีทีมไหนใน พรีเมียร์ลีก เคยทำได้มาก่อน

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงินซื้อขายนักเตะสูงสุดใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรป

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงินไปกับการย้ายทีมมากกว่าสโมสรอื่นๆ ใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บันทึกการใช้จ่ายสุทธิที่น่าจับตามอง 903 ล้านปอนด์ในช่วง 10 ฤดูกาลที่ผ่านมา โดยใช้จ่าย 1.3 พันล้านปอนด์ และชดเชย 395 ล้านปอนด์จากการขายผู้เล่น ตามผลการศึกษาใหม่ที่เผยแพร่โดย Football Observatory

ในแง่ของรายจ่ายสุทธิ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้เงินไปมากกว่าสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (826.6 ล้านปอนด์), ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (790.4 ล้านปอนด์) และ บาร์เซโลน่า (546 ล้านปอนด์) ซึ่งล้วนแต่คว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 5 สมัยหรือมากกว่าในช่วงเวลานั้น เทียบกับแชมป์เก่าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2012/13

ที่น่าสนใจคือ อาร์เซนอล อยู่ในอันดับที่ 5 ของรายการ นำหน้า ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ในยุโรป (471.2 ล้านปอนด์) และ เอซี มิลาน (362.9 ล้านปอนด์) ในขณะที่สามทีมจาก พรีเมียร์ลีก อย่าง เอฟเวอร์ตัน (360.4 ล้านปอนด์), แอสตัน วิลล่า (356.2 ล้านปอนด์) และ เชลซี (346.9 ล้านปอนด์) อยู่ใน 10 อันดับแรก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, คริสตัล พาเลซ, เลสเตอร์ ซิตี้, ไบรท์ตัน และ วูล์ฟแฮมป์ตัน ยังติด 20 อันดับแรก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันในการใช้จ่ายระหว่างทีมจากอังกฤษและทีมในยุโรป

สำหรับทีมอื่นๆ ลีลล์ จาก ลีกเอิง (-293.2 ล้านปอนด์) และ ลียง (-207.5 ล้านปอนด์) ก็ใช้งบเกินดุลอันดับชาร์ตในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นทีมที่ใช้จ่ายสูงที่สุดในประเทศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว อันที่จริงแล้ว 46 จาก 98 สโมสรกลับบัญชีดำ โดยที่ เจนัว, อูดิเนเซ่, อตาลันต้า, มงต์เปลลิเย่ร์ และ แอธเลติก บิลเบา เป็นกลุ่มที่ทำกำไรได้มากที่สุด